- รู้เปล่ามหาวิทยาลัยบูรพาครองอันดับที่ 8 ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่ดี่สุดในประเทศไทย
- น้อยคนนักจะรู้ว่า จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นผู้ก่อตั้ง มหาวิทยาลัยบูรพา
- คนที่ไปวิ่งสวนนันทนาการเป็นนิสิต 20% ที่เหลือเป็นบุคคลภายนอก(ถ้าจะมองหนุ่มหล่อๆ ต้องไปตอนนี้ ซึ่งอาจหายากไปสักนิด ดวงตาต้องมีเรด้าร์สูงพอสมควร)
- 8 กรกฏ วันวิ่งเหยียบ Aเพื่อเป็นความหมายว่าจะได้เกรดเอ นอกจากนี้ก็ต้องเหยียบคำว่า "เส้นชัย" ให้ครบทุกสระและตัวอักษร(สงสารคนเขียนป้ายกันมั่งนะคร้าบ มันเขียนยากกกก)
- คำว่า "ไปสดใส" ในความหมายของเด็ก "ม.บูรพา" คือไปกินข้าว เล่นเนต พิมพ์งาน เติมน้ำมันรถเครื่อง เดิมทีใช้เป็นที่สิงสถิตย์สำหรับชายหนุ่มไว้เหล่สาว แต่ปัจจุบันฝุ่นเยอะจนไม่อยากไป
- ปี 1 ทุกคนต้องวิ่งขึ้นเขาสามมุขเค้าเรียกว่าวัน 8 กรกฎ เป็นวันสถาปนาสาบันอุดมศึกษาแห่งแรกที่ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ
- ในบรรดามหาวิทยาลัยต่างจังหวัดทั้งหมด ม.บูรพาเก่าแก่ที่สุด เพิ่งฉลองครบ50ปีไปเมื่อ พ.ศ.2548
- เดิมมีโครงการจะสร้างม.บูรพาเป็นอุทยานการศึกษายาวตั้งแต่บางแสนถึงบางพระ(หลายกิโลมากๆ)แต่สุดท้ายได้ มข.กับมช.มาแทน
- เด็กคณะมนุษย์ เอกญี่ปุ่น มีสอบทุกอาทิตย์ อาทิตย์ไหนไม่มีสอบนอนไม่หลับ...
- เรื่องแสตนท์เชียร์ต้องยกนิ้วให้คณะสาธารณสุข เพราะสามารถล้มแชมป์18สมัยจากคณะพยาบาลได้ อย่างสวยงาม
- หลีดโจ๊ก ต้องยกให้ คณะมนุษย์ที่เรียนกว่า โมเดล และ ของคณะศิลปกรรม แข่งกันมมาตลอดถ้าปีไหนมนุษย์ไม่ลงศิลปกรรมก็จะไม่ลงแข่ง(spirit)
- คณะการจัดการและการท่องเที่ยวมี ไอดอล ส่วนมนุษย์ศาตร์ มีโมเดล ถึงแม้ ไอดอลจะมาทีหลัง แต่เริ่มฮากว่า
- คณะวิดยาจะมีประเพณีซายน์สักการะ โดยเริ่มตั้งแต่ตี 5 ปี 1 จะต้องวิ่งขึ้นเขา สามมุข ตอนกลางวันมีการลอดซุ้มซายน์ ตอนนี้ไม่มีการลอดซุ้มทรายอีกแล้วเพราะหาดกลายเป็นฟุตบาทไปแล้ว ตอนค่ำก็จะมีการมอบอะตอมโดยรุ่นพี่รหัสจะมอบให้น้องรหัส และรุ่นพี่จะสาดน้ำตาเทียนใส่รุ่นน้องอันนี้ชอบมาก สะจัยยย
- ตะก่อนมันชื่องานทรายสักการะ (อีก 2 งาน ชื่อ ทรายคืนถิ่น และน้ำใจทราย) แต่มีคนที่ไม่เข้าใจบอก(สั่ง)ว่า ให้ใช้คำว่า ซายน์ การใช้คำว่า ทราย เป็นการเล่นคำพ้องเสียง เพราะอยู่ที่บางแสน จุดเด่นอยู่ที่หาดทราย เปรียบเทียบนิสิตในคณะเป็นดั่งเม็ดทรายมารวมกัน (ทำไมแค่นี้มองเจตนาไม่ออกนะ คนบอก/สั่งน่ะ)
- ที่นี่มีศูนย์หนังสือจุฬาด้วยนะเออ มีหนังสือให้ท่านเลือกมากมายมีเทคบุคขายด้วย แต่ไม่เห็นมีคนซื้อเลย (ก็กูตกอิ้ง 1 อ่ะ )
- ห้องสมุดที่นี่เรียกว่าสำนักหอสมุด มี 7 ชั้น ชั้น1ที่นั่งเล่น ชั้น2หนังสือเทคบุค ชั้น3หนังสือภาษาไทย ชั้น4วารสาร ชั้น5หนังสืออ้างอิง ชั้น6อินเตอร์เนต ชั้น7หนังสือเก่า ว่างๆก็ไปบ้างนะ
- สำนักหอสมุดเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกและติดท๊อปเท็นของประเทศ โดยมีหนังสือภาษาไทย 254,156 เล่ม ภาษาต่างประเทศ 73,621 เล่ม และก็มีโรงหนังอยู่ชั้น 6 ด้วยนะเออ
- ที่หาดบางแสน คนขายถั่วมาจากเมืองกุสินารา ส่วนคนขายโรตีมาจากเมืองนิวเดลี แชมพูทวีป (เรื่องจริงนะ แต่จะบอกเพื่อ ? )
- ตอนนี้สดใสเปลี่ยนไปมาก สาเหตุที่ซอยนั้นชื่อสดใสเพราะเมื่อก่อนมีมินิมาร์ทชื่อว่าสดใส แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
- วาริชกับวิดวะเค้าไม่ถูกกัน
- แต่ว่าชวนกันไปสัมมะเรเทเมากันทุกอาทิตย์จนเรียกได้ว่าเป็นกิจวัตร จะไม่ถกูกันก็เรื่องมองสาวคนเดียวกันแค่นั้นแหละ
- คณะที่รวมคนหลายๆแบบไว้ด้วยกันคือคณะมนุษย์ คุณจะหาคนคุยด้วยได้ทุกๆเรื่องที่นี่
- คณะที่มหัศจรรย์ที่สุดคือคณะพยาบาลศาสตร์ บอร์ดไม้ประกอบเหล็กของกองอาคารฯที่ต้องใช้ผู้ชายวิศวะแบกถึงสามคน แต่พยาบาลสามารถใช้ผู้หญิงสองคนแบกได้
- ตอนนี้คณะพยาบาลเป็นคณะเดียวที่มีหอพักในมหาวิทยาลัยแต่ต่อไปคณะแพทย์ก็จะด้วย(กำลังทำเรื่องขอที่)
- ปี 46 เด็กคณะวิศวะได้ B ฟิสิกส์ 1 คน และ F 198 คน
- ปี 50 วิชาอนาโตมีของคณะพยาบาลมีได้ A 3 คน
- ลานหน้าคณะพยาบาลที่เรียกว่าฟันนี่แลนด์ ล้วนมีแต่อุจจาระสุนัข
- สวนเกษม หลังคณะมนุษย์ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Happy Garden
- เดี๋ยวนี้เด็ก จ.ชลบุรี เลือกที่จะเรียน ม.บูรพาเกือบ 60%
- อินเตอร์เนตที่นี่ครอบคลุมเกือบทั้งมอ เป็น wireless แถมเร็วดีด้วย แต่บลอคบิตทอเร้นและบลอคดอทเอ แล้วผมจะเล่นอะไรหล่ะครับท่าน
- อาคารอนุรักษ์ของคณะพยาบาล เก่าแก่ที่สุดและเคยเป็นตึกของคณะมนุษยศาสตร์ เกือบโดนทุบทิ้งแต่โชคดีที่อาจารย์ภาคประวัติศาสตร์เขียนหนังสือไปท้วงเลย รอดมาได้
- เจ้าของดั้งเดิม ของตึกอนุรักษ์ของคณะพยาบาล คือ วิทยาลัยบางแสน(ซึ่งจะทำเป็นโรงเรียนเหมือนกับ อีตันของอังกฤษ เกิดในปี 2496ก่อน วศ.บางแสนอีก เปิดสอนได้ประมาณ สิบกว่ารุ่นก่อนจะโอนพื้นที่และอาคารทั้งหมดให้กับวิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน )
- ศาลท่านท้าวมหาพรหม ที่ตึก LRC ของคณะพยาบาลนั้น มีมาก่อนก่อตั้งวิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน
- หน้าป้ายคณะพยาบาล ที่มีสี่แยกตลกๆอยู่นั้น ไม่ต้องแปลกใจ เพราะว่าเป็นในอดีตถนนเส้นนี้เป็นเส้นแบ่งเขตแดนของวิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน กับวิทยาลัยบางแสน
- นิสิตมหาลัยบูรพา กว่า 70% ไม่เคยเข้าชม สถาบันวิทย๋ศาสตร์ทางทะเล (ฟรีเื่เมื่อโชว์บัตรนิสิต)
- ตึกวิทย์-แพทย์ หมาเยอะมาก (ยิ่งกลางคืนอย่าขับผ่านโดยเด็ดขาด - เพราะทั้งอาจารย์ใหญ่และหมา) น่ากลัว!!!
- ถ้าจะผ่านหน้าซิกัมหลังหอสมุดปิด หมาจะดุมาก กรุณาสังเกตการณ์หน้าคณะ ถ้ามีชายหนุ่มเตะฟุตบอลกันละก็แปลว่าปลอดภัย
- หมาประจำตึกวิทย์แพทย์ตัวหนึ่งได้ชื่อว่า "บิ๊กอาย" เนื่องจากมีดวงตาข้างหนึ่งกลมโตเหมือนคนใส่คอนแทคให้ตาโตยังไงยังงั้น(เห็น ปุ๊บรู้ปั๊บเลยล่ะว่าตัวไหน ให้ตายสิ) --->คณะแพทย์วางแผนที่จะเอามาเป็นมาสคอทคณะแพทย์ แต่ไม่ทันการเนื่องจากบรรทัดต่อมา
ปัจจุบัน (ตั้งแต่ปี 51) ถูกเนรเทศไปอยุ่หอพักพยาบาล เนื่องจากมี "หมีดำ" สุนัขตัวเมียเจ้าถิ่นยึดอำนาจ ไอ้"หมีดำ"ตัวนี้แหละ ที่มีประวัติว่าสามารถเอาชนะคู่ต่อสุ้ที่เค้ามารุมได้ถึง 5 ตัว
(ถ้าเป็นป้าเล็ก แม่บ้านประจำตึก จะเรียกหมีดำว่า "หมีน้อย" ปัจจุบันคบอยุ่กับไอ้ "สิงโต" สุนัขรุ่นหลาน ลูกของนิ๊งหน่อง)
- พยาบาลกว่า70% เป็นคนโซนตะวันออกเฉียงเหนือ(หน้าตาบ่งบอกภูมิภาค ฮี่ๆ)
- วิทย์-กีฬาปี 1 ทุกคนต้องไปวิ่งเขาเขียว(ทำสัตว์บนเขาตกใจโม้ด...)
- ตึก BS มีคนเห็นคนใส่ชุดขาวเดินไปก็เดินมา(ทำLab ดึก)
- มุกตลกที่ว่า ขอท้าต่อยกันหลังเซเว่นปิด ใช้ที่ ม.บูรพาไม่ได้เเน่ เพราะเซเว่นใน ม.บู ปิด 4 ทุ่ม(ปัจจุบันยังไม่ทัน 3 ทุ่มก็ปิดแล้ว จะรีบไปไหนคับพี่น้องงง)
- ไปกินข้าวมันไก่หน้า ม.บู พึงระวัง ถ้าเรื่องมากอาจโดนปังตอได้
- ซุปเปอร์มาเก็ตในห้างแหลมทองหน้าม.เมื่อก่อนขื่อ saveland แต่ของส่วนใหญ่ราคาเเพงชิบ...ตอนนี้เลยเปลี่ยนเป็นTop Supermarket
- โรงหนังที่ แหลมทอง (saveland) ถ้าเป็นหนังฝรั่งมักจะเป็นบรรยายไทยเสมอ
- ห้าง Saveland เปลี่ยนชื่อเป็นห้างแหลมทองมานานแล้ว แต่หลังจากเปลี่ยนอะไรๆมันก็ดีขึ้นนะ
- ตึก Qs2 ชั้น 9 เป็นชั้นบนสุดของตึก เป็นชั้นที่ถูกศูนย์เกาหลีศึกษาและภาควิชานิติศาสตร์ยึดไว้ หลังจากที่ได้ต่อเติม ชั้น9 ของตึกเสร็จสิ้นแล้ว และเป็นชั้นเรียนเดียวที่ลิฟท์ไปไม่ถึง
- หลายๆคนไม่รู้ จริงๆตึกมนุษย์มี10ชั้น เป็นหอเก็บน้ำและติดตั้งเสาสัญญาณต่างๆของมหาวิยาลัย
- เดิมชั้น 9 QS2 เป็นที่เรียนของภาควิชาดนตรี คณะซิกัม เพิ่งย้ายออกไปเมื่อปี 2546 ก่อนเปิดเทอม
- โมเดลศิลปกรรมของม.บูรพาเป็นที่เฝ้ารอของทุกคนและทุกปีครับ ส่วนลีดคณะต้องยกให้คณะมนุษย์ ส่วนแสตนเชียร์ต้องยกให้พยาบาล
- โภชนาคารเคยเป็นโรงอาหาร ห้องรับปริญญา ห้องนั่งเล่น ที่ตีแบด แต่ปัจจุบันเป็นที่จัดกิจกรรมของนิสิตและต่อเติมออกไปเป็นโรงอาหารแทน
- รถวิ่งรับส่งนิสิตในม.บู เรียกว่า "รถ 2 บาท" หรือ "ไฉไล" ปัจจุบันไม่ต้องจ่ายเงินแล้ว
- ลิฟท์ที่ตึกมนุดน่าจะจุคนได้ซักร้อยคนคงจะดี เพราะจะได้ไม่ต้องเข้าเรียนสาย เวลาที่เรียนชั้นสูงๆ
- ไม่เข้าใจเลยที่ว่าคณะมนุดทำไมต้องรวมหลายภาควิชาในตึกเดียว แต่ลิฟท์มีเยอะเสียเหลือเกิน(ประชด)
- คณะมนุษย์เป็นคณะที่ใหญ่ที่สุดในมอ ด้วยอัตรา8000คน ต่อคนทั้งมอ20000คน
- คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า ม.บูรพาใช้คำว่านิสิต ไม่ใช่นักศึกษา
- ม.บูมีคณะแพทย์มาแปดปีแล้วแต่เพิ่งรับนิสิตรุ่นแรกเมื่อปี50
- หลักสูตรแพทย์ของม.บูถูกทดสอบแล้วโดยคณะแพทย์ของ มศว เอาไปใช้ก่อน
- เพลงประจำสถาบัน เพิ่งได้ฟังเมื่อตอนรับปริญญา
- รัฐศาสตร์ ไม่มีวิชาที่ต้องออกไปฝึกงาน แต่มีชอป ทำไมไม่รู้
- ทางมหาลัยให้มีการลงทะเบียนผ่านเนต แต่เก็บค่าเอกสาร 50 บาท ไม่เนียนเลยนะคับ
- ร้านนี้ Printสี ราคาถูกนะ แถมมีครบวงจร มีถ่ายเอกสารด้วย อยู่ข้างร้านลูกเตี่ย แถมพี่เจ้าของร้านใจดีด้วย อยู่ตรงข้าม "ซุ้มมะม่วง"ไง
- วิทคอมเป็นเอกที่มีคนเรียนเยอะน่ะตอนปีหนึ่งแต่พอปีสอง ปีสาม ปีสี่ หายไปไหนกันหมดหว่า สงสัยจะเป็นเอกที่เอาไว้กำจัดจุดอ่อน คนที่เก่งเท่านั้นถึงจะจบได้
- วิทยาฟิสิกส์เป็นเอกที่เข้าง่ายและจบยากที่สุด ปีที่แล้วมีคนจบแค่สามคนเอง สอบสองครั้งวิชา phy II คนเรียนสองร้อยกว่าคน เต็ม 70% meanคือ 17 !
- เอกฟิปี1นี้ จาก 70 กว่าคน โดนรีไทล์ไปหมดเหลือ ไม่ถึง 30 คน ไทล์ที่ 1.75 แต่ร้อยละ 50 ของคนที่โดนไทล์จะได้เกรด 1.74 อาจารย์ใจร้ายจัง (แต่กูรอดเว้ยยยย 555+ )
- นิติศาสตร์ รุ่น 1 (2549) เข้าเรียน 350 คน ปัจจุบันเหลือประมาณ 70 คน แม่ง ...
- หนังสือพิมพ์เล่มแรกของมหาวิทยาลัย ชื่อว่า หนังสือพิมพ์เข็มเก้า โดยคณะศึกษาศาสตร์
- ตึกสิรินธร(sd) เป็นตึกที่ดูดีมีชาติตระกูลและมีลิฟท์กว้างมากกกกกกก (ประชดดด! เข้าใจมั้ยย)
- สืบเนื่องจากข้างต้น ลิฟท์ที่ว่านั้นมีอัตราความรู้สึกค่อนข้างต่ำ จะรับรู้ว่าบรรทุกน้ำหนักเกินก็ต่อเมื่อเกือบถึงหรือถึงจุดหมายแล้ว นอกจากนั้นนิสิตที่กำลังจะเข้าใช้ลิฟท์ส่วนใหญ่มักมีความกังวลเรื่องความ ปลอดภัยหลังจากอยู่ภายใน ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากประสิทธิภาพที่(ไร้ความ)มั่นคงของลิฟท์นั่นเอง
- อ้อ! ตึก sd เรียกได้ว่าเป็นตึกประจำภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ แต่ทว่าคอมพิวเตอร์ของห้องภาคมีเครื่องที่ "ใช้งานได้จริง" เพียงประมาณ 60% เท่านั้น) และความเร็วอินเตอร์เน็ตก็สุดยอดมาก เปิดเวปใดขึ้นมา คุณสามารถสแกนบัตรออกจากห้องเพื่อไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วค่อยกลับมาดูหน้าที่ คุณเปิดก็ยังได้ เพราะไม่แน่ว่ามันอาจจะยัง "โหลดไม่เสร็จ" แต่ในอนาคตข้างหน้าคาดว่าคงมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และจะนำข้อมูลการเปลี่ยนแปลงมาแจกแจงอีกที
- ในคณะวิท มีเอก ที่ถูกลืม คือ IT เนื่องจาก มาจาก ปวส. จึ่งทำให้ เป็นลูกเมียน้อย ขนาด ในหนังสือ รุ่น ยังไม่มีแผนก นี้เลย(น้อยจัย)(ตอนนี้เค้าแยกตัวตั้งเป็นคณะแล้วนะ)
- มอบูมีพี่วินที่ชอบชูนิ้วชี้เรียกลูกค้า (แต่ถ้าเป็นนิ้วกลางล่ะก้อ....)
- ละครเวทีของภาควิชานิเทศฯ เจ๋งที่สุดในม.บู และ...อาจถูกที่สุดสำหรับภาคนิเทศฯในประเทศไทย สนนราคาไม่ถึง100บาท
- "รถไฉไล" เดิมใช้รถไฟฟ้าจากม.นเรศวร แต่ทนค่าใช้จ่ายไม่ไหว เลยต้องคืนไปแล้วเอารถดีเซลมาใช้แทน
- รถไฉไลมีทั้งหมดสามชุด ชุดละสองคัน ชุดแรกตัวถังใหม่แต่เครื่องเก่า พอเสียบ่อยเข้า ชุดสองชุดสามเลยได้ของใหม่ล้วนๆ
- รถประจำตำแหน่งของอธิการบดีเมื่อก่อนเป็นวอลโว่ ปัจจุบันใช้อัลพาด ทะเบียน กบ2166 ชลบุรี จอดหน้าตึก ภปร คู่กับโตโยต้าคัมรีประจำตำแหน่งรองฯวิชาการ
- เปลี่ยนแล้วครับรถประจำตำแหน่งอธิการบดี เป็นเวลไฟล์ย ทะเบียนอะไรเนี่ยแหละ กทม. จอดคู่กะจี-วากอนรถส่วนตัวของท่านนะแหละ ที่ ภปร. ครับ (อัลพาดไปตกอยู่ในกำมือของคณะนึงในมหาลัยแล้วแล้วครับ)
- อธิการบดี รวย . . !!
- อธิการนั่งคนเดียวด้วย ไม่ยอมให้ใครใช้
- บ้านพักอธิการบดี มองแล้วนึกว่า บังกะโล...(อยู่แถวคณะวิทย์กีฬา)
- ลิฟต์ของตึก sd ทั้งๆที่มาถึงชั้น 4 แต่เลขข้างในจะเป็นเลข 3
- ห้างแหลมทอง หน้ามอ ไม่มี กกน ขาย (ตอนนี้มีแล้ว เพิ่งไปซื้อมาเอง)
- วิทยาลัยนานาชาติเป็นคณะน้องใหม่ แต่มีงบประมาณทุ่มลงไปเยอะที่สุดในมหาลัย แค่ 4 ปี ได้ตึกใหม่หน้าตาดีที่สุดในมหาลัยไปครอบครอง
- ต่อจากด้านบน เพราะผู้ก่อตั้งเป็น คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ถ้าไม่เข้าใจให้ย้อนกลับไป 6 บรรทัด
- เว็บมหาวิทยาลัย ม บูรพา (www.buu.ac.th)มีผู้เข้าชม น้อยกว่า เว็บสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา (www.bims.buu.ac.th)
อ้างอิง :http://th.uncyclopedia.info
-
อย่างนี้นี่เอง....
ตอบลบอ๋อเลยอ่ะ 555
ตอบลบอยากเรียกว่า "เหยียบเอ" ฉันกระทืบเรยแหละ ทำไมมีซีโผล่อ่า งอลลลล
ตอบลบรู้บัดเดี๋ยวนี้ค่า
ตอบลบ